ลีลล์สะดุด! เปแอสเช-โมนาโกไม่พลาด ลุ้นแชมป์ลีกเอิงนัดสุดท้าย
ผลการแข่งขันศึกฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564
โดยจ่าฝูงยังไม่เปลี่ยนมือแต่ แชมป์เก่า และ โมนาโก ยังมีลุ้นแซงเข้าเส้นชัยในเกมสุดท้าย ศึกฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564 คู่แรก ที่สนาม สต๊าด ปิแอร์ โมรัว ลีลล์ ทีมจ่าฝูงทำได้เพียงเปิดบ้านเจ๊า แซงต์ เอเตียน 0-0 ยังยึดจ่าฝูงมีเพิ่มเป็น 80 คะแนนต้องไปลุ้นแชมป์นัดสุดท้ายโดยมีคิวบุกดวล อองเช่ร์ ผลคู่ต่อมาที่สนาม ปาร์ก เดส์ แปร็งซ์ เปแอสเช
แชมป์เก่าไม่พลาดยำ แร็งส์ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนเก็บ 3 แต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 79 คะแนนขยับจี้จ่าฝูง ลีลล์ เหลือเพียง 1 คะแนนโดยนัดสุดท้ายต้องบุกไปเยือน แบรสต์ เริ่มเกมได้เพียง 10 นาที ยูนิส อับเดลฮามิด กัปตันทีม แร็งส์ มาโดนไล่ออกจากสนามจากจังหวะเจตนาใช้มือปัดบอลลูกยิงของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และจากจังหวะนี้ ผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ เนย์มาร์ สังหารเข้าไปไม่พลาด เปแอสเช 1 แร็งส์ 0 นาทีที่ 24 เปแอสเช หนีเพิ่มเป็น 2-0 barbizon-angelus-immo.com จากความผิดพลาดของแนวรับ แร็งส์ จ่ายบอลประมาทหน้าปากประตูตัวเองโดน คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สอดมาแปเข้าไปไม่พลาดและจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้ ครึ่งหลังนาทีที่ 68 เจ้าถิ่น มาได้ประตูนำ 3-0 จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เนย์มาร์สำหรับวัวรสซึ่งใช้เวลาทศวรรษก่อนหน้าที่ผ่านมาสำหรับเพื่อการตรวจอวกาศสไตล์ Star Trek ของตนโดยส่วนมากเป็นหลักที่ ข้างหลังฟูลแบ็คของคุณ ช่องว่างพวกนั้นเป็นรำพึงรำพันของเขา โน่นเป็นความสามารถพิเศษของเขาอาชีพของเขาตรงนั้น ครึ่งแรกมีการส่งบอลยาวในแนวเฉียงที่ถูกต้องห้าครั้งแล้วก็ไม้กางเขนสามลูก ให้เวลาเขาค้นหาแล้วก็ระบุพิกัดของเขาแล้วก็เขาจะจมเรือรบของคุณปัญหายังคงเดือดปุดๆถ้าคล็อปป์มิได้เตือนคนของเขาเกี่ยวกับช่องว่างด้านหลังหรือแค่เพียงหันไปมองดูช่องว่างด้านหน้า?
กลุ่มที่มีคุณภาพการคุ้มครองป้องกันเป็นความร้อนแล้วก็แรงกดดันจะหย่อนยาน
ได้ยังไงก็เลยอบอุ่น? กลุ่มผลิตขึ้นจากพลังงานโลหะหนัก เสมอเส้น แต่ว่ายังคงแปลงเป็นโคตัวนี้ได้ยังไงเมื่อมีเชิ้ตสีขาวในสนามฝึก? เมื่อไม่มีจอร์แดนเฮนเดอร์สันรวมทั้งเวอร์จิลฟานไดจ์คหงส์แดงดูเหมือนจะไม่มีคนแก่ในสนามเลย Viníciusทำมันเป็น 3-1 ในนาทีที่ 65 ช่วยได้จากข้อบกพร่องที่โชคร้ายจาก Alisson เกมดังกล่าวมาแล้วข้างต้นไปสู่ความสมดุลมากขึ้นเรื่อยๆภายหลังที่พลังงานว่องไวในช่วงสั้นๆนั้นถึงแม้มาดริดจะดูเหมือนจะมีอำนาจควบคุมอยู่ตลอด ในตอนเลกลำดับที่สองที่จะมาถึง
นี้หงส์แดงมีความรู้ความสามารถเป็นอย่างมากสำหรับเพื่อการคว้าแชมป์ในเกมนี้ แต่ว่าไม่ว่าสกอร์ที่แอนฟิลด์จะมีผลให้เสียโอกาสคู่ปรปักษ์ระดับที่ถือว่าสูงที่ให้เวลารวมทั้งพื้นที่มากเกินความจำเป็นทำให้สามารถประเมินผลเกมนี้ได้ด้วยการผ่านบอลแบบไม่รีบเมื่อRaphaël Varane แล้วก็ Sergio Ramos ออกไปก็มีจุดที่สุภาพอยู่ในหัวใจของ Meringues กลุ่มนี้เสมอ สิ่งนั้นเป็นคุณจะต้องใกล้พวกเขาก่อนแล้วก็จากนอกหงส์แดงมองสะดุ้งอยากนอนครึ่งด้านพวกเขาไม่ว่างไม่มีพื้นที่สำหรับเพื่อการครอบครองบอลในตอนที่มาดริดบีบคั้นไวจ์นัลดุมรวมทั้งฟาบินโญ่ มีอยู่ตอนหนึ่งฟูลแบ็คของหงส์แดงถูกตัดทอนการจ่ายบอลผ่านสนามอย่างรีบเร่งเพียงแค่เพื่อหาพื้นที่ว่างสำหรับเพื่อการหายใจ นี่เป็นกลุ่มแชมป์เก่าที่ชำนิชำนาญสำหรับในการเล่นโดยไม่ต้องกลัวแล้วก็เจอกับความลังเลใจในทางตรงกันข้ามยังมีเวลาให้หงส์แดงเปลี่ยนแปลงพลังงานสำหรับในการเสมอคราวนี้เพื่อรับรองเกมวิ่งของตนเอง แต่ว่านี่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับงานหัตถกรรมจากวัวรสในม.ย.ปีถัดไปจะมีการฟื้นฟูการแข่งขันชิงชัยกีฬาโอลิมปิกในเอเธนส์ จากลอนดอนไปยังเมืองหลวงของภาษากรีกไม่ใช่การเดินทางที่ทุกข์ยากลำบากเท่าไรนักโดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนต้นฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง มีสองทางที่ดีที่ฉันสามารถชี้แนะได้ ทางหนึ่งเป็นผ่านกรุงปารีสไปยังมาร์แซย์ - เรือที่สุดยอด - ตรงไปยังเอเธนส์ (สี่วัน) อีกทางหนึ่งเป็นผ่าน Dover ไปยัง Ostend ต่อจากนั้นผ่านประเทศเบลเยี่ยมแล้วก็ ปั่นบอลเข้าเขตโทษถึงหัว มาร์ควินญอส โขกลงพื้นกระดอนเสยเพดานตาข่ายงามหยด ต่อมานาทีที่ 89 เปแอสเช ปิดกล่องสวยงาม 4-0 จากบอลหน้าเขตโทษของ เนย์มาร์ โชว์ลีลาสุดท้ายสุดเท้าไหลเข้าเขตโทษถึง มอยเซ่ คีน ตวัดด้วยซ้ายผ่านมือ เปแดร็ก ไรจ์โควิช ตุงตาข่าย จบเกม เปแอสเช 4 แร็งส์ 0 ผลคู่สุดท้ายจากสนาม สต๊าด หลุยส์ II โมนาโก ทีมอันดับ 3 ยังต่อความหวังให้แฟนบอลเปิดรังเบียด แรนส์ 2-1 เกฺ็บเพิ่มเป็น 77 คะแนนตามหลังจ่าฝูง ลีลล์ 3 คะแนน โดยเกมสุดท้ายมีคิวยกพลบุก ล็องส์ นาทีที่ 16 โมนาโก ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะของ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน แทงบอลยาวเข้าช่องให้ วิสซาม เบน เยแดร์ หลุดกับดักล้ำหน้ายกข้ามหัวนายทวาร แรนส์ ซุกก้นตาข่ายสุดเหนือชั้น
ต่อมานาทีที่ 29 โมนาโก ทิ้งห่างเป็น 2-0 คราวนี้จากบอลหน้าเขตโทษ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน รับบอลจากเพื่อนก่อนดึงเข้าขวาก้มหน้าซัดไปแฉลบเปลี่ยนทางพุ่งสวนตัว อัลเฟร็ด โกมิส ตุงตาข่าย และจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้ นาทีที่ 68 แรนส์ ตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 จากบอลทางฝั่งขวาแหวกเข้าเขตโทษก่อนตักลึกเมาเสาไกลเข้าทางเพื่อนโขกไปติดหัว อักเซล ดิซาซิ ที่พยายามโหม่งช่วยแต่โดนไม่ดีพุ่งเข้าประตูตัวเอง ช่วงท้าย แรนส์ มาเหลือ 10 คนจากความผิดพลาดของ ดาเมียง ดา ซิลวา ไปเสียเหลี่ยมเข้าช้าเหยียบใส่ข้อเท้า โฟเด้ บาโล-ตูเร่ โดนใบแเดงไล่ออกไป จบเกม โมนาโก 2 แรนส์ 1

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น