ความหวังมีแชมป์ประดับตู้โชว์เหลือแค่รายการเดียว
เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โซลชา สามารถนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ถึง 3 รายการ
ได้แก่ คาราบาว คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก แต่สำหรับในซีซั่นนี้พวกเขาเหลือลุ้นเพียงแค่รายการเดียวเท่านั้นนั่นก็คือเกมถ้วยใบเล็กยุโรปจริงๆ แล้วต้องบอกเลยว่าแฟนบอล "ผีแดง" ต่างวาดฝันจะได้เห็นทีมรักทะลุเข้าชิงศึกเอฟเอ คัพ
เพราะหากพวกเขาผ่าน เลสเตอร์ ไปได้ ในรอบตัดเชือกจะปะทะกับ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งทีมเคยไล่ต้อนสบายเกือกมาแล้ว 9-0 ในเกมลีกเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนักเตะมัวแต่ละเมอไปไกลถึงการจะได้ปะทะกับ "เดอะ เซนต์ส" หรือเปล่า ทำให้ฟอร์มในครึ่งหลังไม่กระเตื้อง และโดน "เดอะ ฟ็อกซ์" จัดการซัดอีกสองประตู ส่งผลให้ความหวังที่จะเข้าไปเหยียบเมกะลูกหนังเวมบลีย์ จบสิ้นที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม comenjerseys.com สำหรับตอนนี้ โซลชา คงต้องมองหาโทรฟี่แชมป์เพื่อไปประดับตู้โชว์ในโอลด์ แท็ฟฟอร์ด ที่รายการยูโรปา ลีก เท่านั้น อย่าลืมว่าการได้อันดับ 2 แต่ไร้ความสำเร็จคงไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลแมนฯ ยูฯ ปลื้มมากนักก็เหมือนกับที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้กล่าวเอาไว้ว่า "เร้ด เดวิลส์" ของ โซลชา เป็นทีมที่เก่งกว่า แมนฯ ยูฯ ชุดที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน แต่หากไม่ได้แชมป์อะไรเลย มันก็ไร้ความสำคัญ !!
ความผิดพลาดในการเล่นจนนำไปสู่การเสียประตูไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นกับแมนฯ ยูไนเต็ด
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือทำไมพวกเขายังคงปล่อยให้เกิดความผิดพลาดแบบไม่ควรเกิดขึ้นแบบนี้ ทั้งๆ ที่น่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขได้แล้วจังหวะการเสียประตูแรกต้องบอกเลยว่าเป็นการทำผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยของ เฟร็ด ในการส่งบอลคืนหลังสั้น และโดน อิเฮียนาโช่ จัดการลงโทษอย่างเลือดเย็น
แต่หากมองอีกมุมคนที่ควรโดนตำหนิด้วยก็คือ แม็กไกวร์ ที่ส่งบอลยากให้เพื่อน ทั้งๆ ที่เห็นว่า ดาวเตะชาวบราซิเลียน โดนไล่ ยูริ ตีเลมันส์ วิ่งไล่บี้ อย่างไรก็ตามจังหวะดังกล่าวไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่ เฟร็ด ถูกตำหนิ เพราะยังมีอีกหลายจังหวะที่เขาทำผิดพลาด โดยหนึ่งในนั้นก็คือจังหวะที่พยายามวิ่งไล่บี้ ตีเลมันส์ แต่สุดท้ายทำไม่สำเร็จส่งผลให้ กองกลางชาวเบลเยียม หลุดเข้าไปกดประตูนำ 2-1ที่สำคัญฟอร์มของ เฟร็ด ควรจะโดนเปลี่ยนตัวออกไปตั้งนานแล้ว แต่ โซลชา ดันเลือกที่จะให้โอกาสเขาลงเล่นต่อ และก็ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย แถมกว่าจะเปลี่ยนตัวก็ปาเข้าไปนาทีที่ 84 และส่ง อาหมัด ดิยัลโล่ ลงเล่น ซึ่งมีเวลาเหลือไม่พอให้นักเตะได้พลิกเกม สำหรับในรอบตัดเชือกที่มีการจับสลากในช่วงพักครึ่งของเกมระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าเมื่อผลการจับสลากออกมาทีมที่ชนะในเกมนี้จะได้ดวลกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ทั้งนักเตะทั้งสองฝ่ายคงฮึกเหิมกันสุดๆแน่นอนว่าการพบกับ "นักบุญ" เป็นงานที่ง่ายกว่าที่จะดวลกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หรือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะทั้งสองทีมนี้กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มโหดสุดๆ ฉะนั้นเมื่อไม่ต้องเจอกับพวกเขาในรอบรองชนะเลิศ โอกาสที่จะได้เข้าชิงก็มีสูงเลยทีเดียว
นี่ไม่ใช่การปรามาส "เดอะ เซนต์ส" จนเกินไป แต่ความจริงก็คือความจริง เพราะตอนนี้ เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นทีมที่อ่อนด้อยกว่าคู่แข่งทีมอื่นๆ ในรอบตัดเชือก การที่ เลเตอร์ ได้พบกับพวกเขา แน่นอนว่าความฝันที่จะได้ลุ้นโทรฟี่รายการนี้ก็มีค่อนข้างสูงล่าสุดทีมของกุนซือเบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพิ่งจะสอย เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฉะนั้น "เดอะ ฟ็อกซ์" มีโอกาสดีเหลือเกินที่จะได้ผลการแข่งขันที่ต้องการในการเจอกับนักบุญแดนใต้ ศึกเกมเอฟเอ คัพ ช่วงกลางเดือนเมษายนนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น