ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบยืมตัว

อย่างไรก็ตาม นี่คือการเติมเต็มความฝันของ "โอเดียน อิกาโล่" ดาวยิงทีมชาติไนจีเรีย เพราะเขาถือว่าเป็นแฟนบอลของทัพ "ปีศาจแดง" ตั้งแต่จำความได้เลย 

และนี่คือทีมที่เขาอยาลงเล่นด้วยมาโดยตลอด ช่วงนี้ เราไปติดตามชีวิตนอกสนามของเขากันหน่อย ถึงการฝ่าฟัน กว่าจะก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนทุกวันนี้ พร้อมกับภารกิจนอกสนาม เกี่ยวกับด้านการกุศล ซึ่งเป็นมุมที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน

"ผมเติบโตมากับการเป็นแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" อิกาโล่ เริ่มเล่าถึงชีวิตของเขา ซึ่งเติบโตมาใน เอเจ ซิตี้ ย่านสลัมที่แทรกตัวอยู่ในประเทศไนจีเรีย ท่ามกลางความยากลำบาก แต่มันไม่เคยทำให้ความสุขในวัยเด็กของเขาน้อยลง เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ”ฟุตบอล" คอยนำทางอยู่เสมอ "ผมและพี่น้อง ต่างเป็นสาวกของปีศาจแดง" เขาเล่าต่อ "เรายอมจ่ายเงิน เพื่อดูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามแข่งขัน หากคุณอยากดูการถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คุณก็จำเป็นต้องมีช่องกีฬา นี่คือชีวิตที่ไนจีเรีย แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีปัญญาจ่ายเงินจำนวนนั้น คุณพ่อกับคุณแม่ของผม ไม่มีกำลังมากพอที่จะทำแบบนั้น ดังนั้น คุณต้องจ่ายเงินเข้าไปดูที่ศูนย์ หากอยากดูฟุตบอลจริงๆ" "ผมเติบโตมาในย่านสลัม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก แต่เมื่อสุดสัปดาห์มาถึง golfdouraku.com ความตื่นเต้นก็จะเข้ามา เพราะทุกคนต่างอยากจะดูทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามแข่งขัน ด้วย้หตุนี้ คุณต้องเริ่มเก็บเงินที่ได้จากการไปโรงเรียน สะสมทีละเล็กทีละน้อย เพื่อเฝ้ารอช่วงเวลาสุดสัปดาห์" "คุณจะมีเสื้อแข่งเป็นของตัวเอง และต้องซักทำความสะอาด ก่อนที่สุดสัปดาห์จะเดินทางมาถึง จากนั้น คุณสวมเสื้อบอลดังกล่าว 

golfdouraku.com

และเข้าไปเชียร์ทีมรักที่ศูนย์ ที่นั่นมันบ้าคลั่งมาก แฟนบอลบางคนก็แช่งให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับความพ่ายแพ้ ในฐานะที่คุณเป็นแฟนบอลปีศาจแดง 

คุณต้องการสนับสนุนให้ทีมพบกับชัยชนะ คุณเริ่มมีการโต้คารม, ตะโกน, กรีดร้อง และทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้""ศูนย์ที่จัดเอาไว้ให้ชมการถ่ายทอดสด บางห้องก็มีขนาดที่เล็กเอามากๆ มีคนราว 200 คนบรรจุอยู่ในนั้น อีกห้องหนึ่ง คุณอาจจะได้เห็นคน 500 คนรวมตัวกันดูการถ่ายทอดฟุตบอล บางคนก็ต้องยืนดู แม้ว่าจะจ่ายเงินเข้ามาก็ตาม"

เขากล่าวถึงการเซ็นสัญญายืมตัวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาไว้ว่า ”ผมรู้ว่านักฟุตบอลมากมาย ทำการเซ็นสัญญา พร้อมกับบอกว่าสโมสรนั้นคือทีมในฝัน แต่สำหรับผมแล้ว มันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง จากเด็กย่านสลัม ผมเดินทางมาสู่โรงละครแห่งความฝัน พร้อมกับลงเล่นให้กับสโมสรในฝันที่แท้จริง ทีมที่ผมเฝ้าเชียร์มาตั้งแต่วัยเด็ก" จากเด็กที่เติบโตมาในย่านสลัม สู่นักฟุตบอลอาชีพ ที่มีเงินทองมากมาย ทว่าความสำเร็จเหล่านั้น ไม่เคยทำให้อิกาโล่ หลงลืมตัวตนเลยแม้แต่น้อย เกือบครึ่งชีวิตของเขา ต้องออกมาผจญภัยต่างแดน ผ่านการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยลืมบ้านเกิดของตัวเองเลยสักวันเดียว "ผมเกิดมา ผมก็เผชิญหน้ากับความยากจนแล้ว กระทั่งตอนนี้ ผมมีอาหารทานครบ 3 มื้อ แต่ความจริงคือ บางคนไม่มีอะไรกินประทังชีวิตด้วยซ้ำ สำหรับผม ครอบครัวคือสิ่งสำคัญเหนือสิ่งใด เป็นประจำทุกเดือน ผมจะส่งเงินกลับไปให้พวกเขา นอกจากครอบครัวแล้ว ผมยังมอบเงินบริจาค เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ด้อยโอกาส เพราะอย่างที่ผมบอกไป ผมถูกหล่อหลอมมาด้วยความยากจน" "เงินดังกล่าวของผม ถูกส่งไปให้กับเด็กน้อย และตามโรงเรียนต่างๆ ผมยังอุปการะแม่ม่ายหลายต่อหลายคน 

โดยบ้านหลังนี้จะอุปการะเด็กจนถึงอายุ 18 ปี หรือเป็นวัยที่พวกเขาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ซึ่งบ้านหลังนี้ ยังคอยดูแลในเรื่องของการศึกษา และการเล่นกีฬาด้วย ถือเป็นการสนับสนุนในทุกช่องทาง ช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากการเล่นฟุตบอล เขามักเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้เสมอ ผ่านการพูดคุย และมอบเงินให้กับเด็กๆ หากมองจากภายนอก นี่คือบ้านแสนธรรมดา ที่ประดับประดาด้วยกำแพงสีส้ม พร้อมกับข้อความขอบคุณพระเจ้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

UFABET แจกเครดิตฟรี เว็บพนัน ฟรีเครดิต เว็บพนันออนไลน์

ลูกาเราเข้ามุมไกล Martínezกึ่งกลางรวมทั้ง