รับน้องซิลวา! 5 ประเด็นร้อนหลังเชลซีรอดตายตามเสมอเวสต์บรอมฯ
เชลซี รอดจากความปราชัยแบบเหลือเชื่อทั้งที่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง เวสต์บอรมวิช ถึง 3 ประตู
แต่สุดท้ายพวกเขารวบรวมสมาธิและรัวประตูในครึ่งเวลาหลังจนแบ่งแต้มออกมาจากรัง เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ได้สำเร็จ มีประเด็นมากมายเกิดขึ้นในเกมนี้โดยเฉพาะแนวรับของเชลซีรวมถึงการเปลี่ยนตัวของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด
เรามาวิเคราะห์กันทีละข้อเลย นับตั้งแต่กลับรีสตาร์ทลีกฤดูกาล 2019/20 ไม่มีสโมสรไหนในพรีเมียร์ลีกที่เสียประตูเกมเยือนมากเท่ากับ เชลซี ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อีกแล้ว ความจริงมีเพียงเกมเดียวในบ้านเท่านั้นที่พวกเขาเก็บคลีนชีทได้ในช่วงนั้น นี่เป็นสิ่งที่ยังเป็นข้อแตกต่างจากทีมที่จะขึ้นไปลุ้นแชมป์ซึ่ง แลมพาร์ด พยายามแก้จุดนี้ด้วยการนำเข้านักเตะมากประสบการณ์อย่าง ติอาโก ซิลวา, แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติอังกฤษอย่าง เบน ชิลเวลล์ และ นายทวารจากลีกเอิง เอดูอาร์ เมนดี้ ในรายของ เบน ชิลเวลล์ นั้นยังคงรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ ขณะที่ เอดูอาร์ เมนดี้ เพิ่งลงซ้อมกับทีมทำให้ doodido.com ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ แต่ ติอาโก้ ซิลวา ได้ลงประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกทันทีหลังจากเมื่อกลางสัปดาห์ได้สัมผัสเกมคาราบาว คัพมาแล้ว ส่วนผู้รักษาประตู แลมพาร์ด เลือกที่จะดร็อป เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ที่ทำผิดพลาดบ่อยครั้งและเลือกใช้ วิลลี่ กาบาเยโร่ แทน
เชื่อว่าแฟนเชลซีคงหวังจะเห็นประสบการณ์ของ ซิลวา เข้ามาช่วยจัดระเบียบแนวรับให้ดีขึ้นซึ่งเกมนี้เขาได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม
ด้วยทว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้ ครึ่งแรกกลายเป็นหายนะของแนวรับของเชลซีจริงๆ โดย มาร์กอส อลอนโซ่ ยังคงเป็นบ่อน้ำมันให้คู่แข่งเจาะสบายอีกเช่นเคย ส่วน รีซ เจมส์ มักจะเติมเกมจนลงมาช่วยเกมรับไม่ทัน ที่สำคัญคือ ซิลวา เองจับบอลพลาดจนโดนคู่แข่งฉกไปยิงประตูแบบง่ายดาย
เชลซี เสียไปแล้วถึง 6 ประตูจาก 3 เกมแรกของพรีเมียรืลีก ไม่ต่างอะไรจากฤดูกาลที่แล้วที่ 3 เกมแรกก็เสียถึง 7 ประตู แลมพาร์ด คงต้องมีการติวแนวรับโดยด่วนรวมถึงสมาธิของนักเตะแต่ละคนด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นอุปสรรคใหญ่โตในการลดช่องว่างระหว่างทีมพวกเขากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล คำถามเกิดขึ้นในหัวตลอดเกมนี้ว่าเมื่อไหร่แข้งใหม่เชลซีจะได้เฉิดฉายเสียที ในรายของ ติอาโก้ ซิลวา คงไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาก่อความผิดพลาดจนทำให้ทีมเสียประตู ส่วน ไค ฮาแวร์ทซ์ แนวรุกเจ้าของค่าตัวราว 70 ล้านปอนด์แทบจะเล่นไม่ออกเลยโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก ถึงแม้ว่าอดีตแข้งเลเวอร์คูเซ่นมีส่วนทำชิ่งให้ ฮัดสัน-โอดอย เข้าไปยิงประตูแต่ฟอร์มโดยรวมยังไม่ค่อยน่าประทับใจนัก ส่วนติโม แวร์เนอร์ มีส่วนร่วมกับเกมเยอะทีเดียวทว่าเมื่อมีโอกาสจบสกอร์ เขาดันยิงชนคานไปถึงสองครั้ง เจ้าตัวยังคงรอประตูแรกในพรีเมียร์ลีกต่อไป
แต่ในขณะที่แข้งใหม่กำลังคลำหาฟอร์มที่ดีอยู่ เมสัน เมาท์น กลับเป็นคีย์แมนสำคัญในเกมรุกที่ช่วยให้ทีมเก็บแต้มสำคัญในเกมนี้ เขาออกสตาร์ทตัวจริงเป็นแนวรุกทางฝั่งขวา คอยพยายามหาช่องในแนวรับของเวสต์บรอมวิชและยังจ่ายให้ รีซ เจมส์ ขึ้นมาครอสบอลอยู่หลายรอบ ขณะที่ครึ่งหลังเขาดร็อปต่ำลงมาเป็นมิดฟิลด์ และโชว์ความสามารถในการผ่านบอลทะลุไลน์กองหลังรวมถึงช่วยให้ทีมครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว บวกกับการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมจากการยิงไกลสุดสวย สมควรกับการเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น