ความพยายามครั้งที่ 4 ของ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า"
ความพยายามครั้งที่ 4 ของ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า"
แมนฯ ซิตี้ คือเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้เป็นเต็งหนึ่ง ทั้งๆ ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าพวกเขามีปัญหาในเกมรับจนมักจะเสียประตูง่ายๆ
แบบไม่มีเหตุผลและไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้นได้ตลอดเวลาเท่านั้นไม่พอทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์มีอันต้องปราศจากดาวถล่มประตูตัวฉกาจอย่าง กุน อเกวโร่ จนทำให้ประสิทธิภาพในเกมรุกลดลงไปพอสมควรอีกต่างหากแล้วเหตุไฉนพวกเขายังคงถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่ง ???เหตุผลสำคัญประการแรกคือศักยภาพของพวกเขานั่นแหละ เพราะถ้าว่ากันถึงเรื่องขุมกำลัง แมนฯ ซิตี้
ไม่เป็นรองคู่แข่งที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ ขณะที่ฟอร์มการเล่นในรอบก่อนหน้านี้ก็มิใช่เบา หลักฐานคือการเอาชนะทีมเทวดาอย่าง เรอัล มาดริด แบบไป-กลับอย่างไม่ระบมหัวแม่ตีนสักเท่าไหร่ความพยายามครั้งที่ 4 ของ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า"การเจอกับคู่แข่งที่อ่อนกว่าอย่าง ลียง ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย คือเหตุผลประการต่อมาส่วนเหตุผลสำคัญอีกประการคือ แมนฯ ซิตี้ มีผู้จัดการทีมระดับอ๋องอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นี่แหละเพราะถ้าดูจากรายชื่อกุนซือของทั้ง 8 ทีมที่หลุดเข้ามาถึงรอบนี้อตาลันต้า - จาน ปิเอโร กาสเปรินี่ไลป์ซิกเลี่ยน นาเกลส์มันน์แอต.มาดริด funalliance.com ดิเอโก้ ซิเมโอเน่บาร์เซโลน่า - กีเก้ เซเตียง (ลีโอเนล เมสซี่ - เบื้องหลัง)ลียง - รูดี้ การ์เซียบาเยิร์น มิวนิค - ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิคเปแอสเช - โธมัส ทูเคิ่ลแมนฯ ซิตี้ - เป๊ป กวาร์อืมมมมม...คุณคิดว่าใครคือผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดล่ะ ???ความพยายามครั้งที่ 4 ของ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า"ในสายตาของท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผม - เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือผู้จัดการทีมที่อุดมด้วยคุณภาพมากที่สุด ณ ปัจจุบันพี่แกเป็นกุนซือ "สติเฟื่อง" ที่หมกมุ่นอยู่กับการคิดค้นและสร้างสรรค์รูปแบบการเล่นที่พิสดารบนความล้ำลึก โดยมีปรัชญาการเล่นเป็นของตัวเองที่ชัดเจนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำปรัชญาการเล่นของตัวเองมาพลิกแพลงได้แบบไม่ตายตัว แถมยังผสมผสานการเล่นแบบสเปนอันเป็นพื้นฐานให้เข้ากับสไตล์การเล่นแบบเยอรมันและอังกฤษได้ตามสถานการณ์อีกต่างหาก
นอกจากยังเอาวิธีการเล่นแบบ "พาสซิ่ง" กับ "เพรสซิ่ง" มาสังวาสกันได้อย่างเมามัน
สังเกตได้ว่าเมื่อลูกทีมของเขาแย่งบอลจากคู่แข่งได้สำเร็จจากการ "เพรสซิ่ง" แมนฯ ซิตี้ จะไม่เร่งเกมรุกแล้วบุกจู่โจมทันที แต่จะต่อบอลกันก่อนสัก 5-6 จังหวะ ด้วยเหตุผล 2 ประการหนึ่งคือหากรีบจู่โจมแบบกล้าได้กล้าเสียอย่างปัจจุบันทันด่วน มันจะขาดความแน่นอนจนมีโอกาสเสียการครอบครอแหม่...อุตส่าห์ไล่บี้บอลจนแย่งมาได้ เสียพลังงานไปมิใช่น้อย จึงไม่ควรเสียบอลคืนให้คู่แข่งอย่างรวดเร็ว
หนึ่งคือต้องการจัดระเบียบผู้เล่นให้ตรงตำแหน่งตามผังการเล่นที่วางไว้ก่อน เพราะหากพลาดท่าถูกสวนกลับก็จะได้มีผู้เล่นที่รับผิดชอบอยู่ในตำแหน่งของตัวเองความพยายามครั้งที่ 4 ของ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า"บ่อยครั้งที่พวกเขาเสียการครอบครองบอลแล้วจะรีบชิงจังหวะทำฟาวล์ เพื่อหยุดเกมโดยพลัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการถูกสวนกลับขณะผู้เล่นยังไม่อยู่ในตำแหน่ง อันแสดงให็เห้นถึงความรัดกุมและรอบคอบอยู่ในทีหลักสำคัญคือการครองบอลให้มากกว่าคู่แข่ง ในเมื่อทั้งสนามมีบอลอยู่แค่ลูกเดียว หากมันอยู่กับตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่ โอกาสที่จะแพ้มันก็ลดน้อยลงไปตามหลักคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่ความปราชัยของ แมนฯ ซิตี้ มักจะบังเกิดจากการบุกมากกว่าแล้วดันยิงประตูไม่ได้ หรือทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด เรียกว่าเป็นวันซวยของพวกเขาเวลาเสียประตูก็มักจะเกิดจากความผิดพลาดกันเองยกตัวอย่างเช่นกองหลังวิ่งชนกันอะไรแบบนั้นตอนที่ยังเป็นนายใหญ่ของ บาร์เซโลน่า แต่กลับไม่เคยเสกให้ บาเยิร์น มิวนิค และ แมนฯ ซิตี้ เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวความพยายามครั้งที่ 4 ของ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า"อย่าว่าแต่เข้าชิงฯ เลยครับคุณ เอาแค่รอบตัดเชือก กุนซือวัย 49 กะรัตผู้นี้ก็ไม่เคยพา แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้าไปถึงสักครั้งจนถูกตั้งข้อสังเกตว่านับตั้งแต่ไม่มี ลีโอเนล เมสซี่
เป็นลูกทีม เขาก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในรายการนี้ ซึ่งในมุมมองของผม - ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นการชิงชัยที่มีอัตราความยากมากที่สุดในเมืองมนุษย์ - มากกว่าแชมป์ลีกสูงสุดในประเทศตัวเองเสียอีกเพราะนอกจากจะอุดมด้วยคู่ขับเคี่ยวที่จัดอยู่ในประเภท เสือ สิงห์ กระทิง แรด และหงส์ มันยังขึ้นอยู่กับโชคดวง รวมถึง "จังหวะ" และ "เวลา" ซึ่งไม่เข้าใคร-ออกใคร และไม่สามารถกำหนดได้อีกต่างหาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น