ลูกาเราเข้ามุมไกล Martínezกึ่งกลางรวมทั้ง

 

เจรจากันแล้ว!ฟานกัลแจงเกือบได้ร่วมงานลิเวอร์พูล

หลังจากเคยมีข่าวกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงปี 2012 หลุยส์ ฟาน กัล ก็ออกมาบอกเองว่าตนเคยเกือบที่จะได้ร่วมงานกับ "หงส์แดง" จริงๆ 

โดยถึงขั้นได้เจรจากับ เอียน อายร์ คนใหญ่คนโตของทีมในตอนนั้นด้วย พร้อมบอกว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยวางให้ตนเป็นทายาทในตำแหน่งกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนที่ เฟอร์กูสัน คิดที่จะวางมือจากการคุมทีมในปี 2002 เช่นกัน แต่สุดท้าย เฟอร์กูสัน ก็เปลี่ยนใจและคุมทีมต่อหลุยส์ ฟาน กัล อดีตกุนซือคนดัง เปิดเผยว่าก่อนหน้าที่จะตอบตกลงไปคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในปี 2014 นั้น 

ตนเคยเกือบที่จะได้ร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล เหมือนที่เคยมีข่าวลือจริงๆ ฟาน กัล เคยตกเป็นข่าวกับเก้าอี้กุนซือ ลิเวอร์พูล อย่างหนักไม่ว่าจะทั้งในตำแหน่งผู้จัดการทีมหรือผู้อำนวยการกีฬาในปี 2012 ก่อนที่กระแสข่าวระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายจะเงียบลงไป โดยในช่วงซัมเมอร์ ปี 2012 ลิเวอร์พูล ตัดสินใจเอา เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มาคุมทีม ฟาน กัล ให้สัมภาษณ์กับ โฟร์โฟร์ทู นิตยสารฟุตบอลชั้นนำว่า "ใช่ ผู้จัดการทั่วไปของพวกเขา (เอียน อายร์) เดินทางไปที่โปรตุเกสในตอนที่ผมอยู่ที่นั่น เราคุยกันเป็นเวลานาน และเขาถึงขั้นอยู่กินมื้อค่ำกับผมด้วย อย่างไรก็ตาม พอเขากลับไปแล้วผมก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากเขาอีกเลย ถ้าเขาไม่จริงจังกับการจะให้ผมไปทำงานกับที่นั่นแล้วล่ะก็เขาก็คงไม่ลงทุนเดินทาง fanshoesline.com ไปถึงโปรตุเกสหรอก แต่หลังจากนั้นผมได้ยินมาว่าพวกเขามองว่าผมเป็นพวกหยิ่งยโสเกินไป หรืออะไรทำนองนั้นล่ะมั้ง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" อดีตนายใหญ่ชาวดัตช์เสริมว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยอยากให้ตนไปรับงานต่อจาก เฟอร์กูสัน ในตอนปี 2002 ด้วย เพราะช่วงนั้น เฟอร์กูสัน เคยคิดที่จะวางมือจากการคุมทีม แต่ก็เปลี่ยนใจในภายหลัง "ใช่ มันเป็นเรื่องจริง! เฟอร์กูสัน เคยขอให้ผมไปรับงานต่อจากเขาในตอนที่เขาวางแผนจะวางมือในช่วงนั้น"

 "เรารู้จักกันจากงานประชุมโค้ชของ ยูฟ่า เราเป็น 2 คนสุดท้ายที่ออกจากงานอยู่เสมอ เขาเลือกให้ผมเป็นทายาทของเขา แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ออกจากตำแหน่ง! 

เขาเปลี่ยนใจและคุมทีมต่อ หลังจากนั้นผมก็ได้รับการติดต่อจาก ปีเตอร์ เคนยอน เกี่ยวกับการไปคุม เชลซี ผมรู้จักเขาจากตอนที่เขาทำงานให้ อัมโบร แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นตามมาเลย" ในเอฟเอ คัพ ฤดูกาลนั้น ทีมปีศาจแดงถูกจับฉลากให้ต้องออกไปเยือนทุกๆ รอบ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าแชมป์รายการแรกในยุคของเฟอร์กูสันมาครองได้สำเร็จ 

ลี มาร์ติน ยิงประตูโทนในนัดชิงชนะเลิศ นัดรีเพลย์ เอาชนะคริสตัล พาเลซ คว้าแชมป์ไปครอง
และเมื่อได้ถ้วยแรก แชมป์อื่นก็ตามมาอย่างไม่ขาดสาย ฤดูกาลต่อมาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ไปครองได้อีกที่ร็อตเตอร์ดัม เป็นการเอาชนะบาร์เซโลน่า 2-1 ต้องขอบคุณประตูจาก มาร์ค ฮิวจ์ส จากนั้นในฤดูกาล 1991/92 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้แชมป์ลีก คัพ มาประดับบารมีเพิ่มอีก ยังเหลืออีกถ้วยหนึ่งที่เหมือนเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์สำหรับแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือแชมป์ลีกที่พวกเขารอคอยกันมา 26 ปี โดยต้องตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของลิเวอร์พูลมาโดยตลอด และในฤดูกาล 1992/93 การรอคอยอันยาวนานก็สิ้นสุดลง ทีมปีศาจแดงสามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ โดยได้รับอิทธิพลจากการย้ายเข้ามาด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ของ เอริค คันโตน่า เบียดแอสตัน วิลล่า คว้าอันดับที่ 1 ไปครองจนได้ จากนั้นความสำเร็จก็หลั่งไหลเข้ามา ฤดูกาล 1993/94 ทีมสามารถทำดับเบิ้ลแชมป์ได้ จากนั้นก็มาทำซ้ำได้อีกในฤดูกาล 1995/96 (จากฝีเท้าของพวกเด็กๆ) และก็คว้าแชมป์ลีกเพิ่มได้ในปี 1997 ถึงตรงนี้เป็นอันว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ผงาดขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่แทนที่ลิเวอร์พูลไปเรียบร้อยแล้ว

ถึงตรงนี้ทีมปีศาจแดงก็อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายทีมชุดใหม่ หลังจากหมดยุคนักเตะที่เขาสร้างมากับมือในฤดูกาล 1995/96 เขาเริ่มคว้าตัวนักเตะอย่าง เวย์น รูนี่ย์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามาเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคใหม่ ทีมชุดใหม่นี้เริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ 2005/06 จากนั้นก็ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 9 ในฤดูกาล 2006/07 ในเดือนพฤษภาคม 2007 เซอร์ อเล็กซ์ ได้คว้าเอานักเตะใหม่ 3 คนเข้ามาสู่ทีมคือ แอนเดอร์สัน, หลุยส์ นานี่ และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ นั่นทำให้ทีมยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก และก็สามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้ในฤดูกาล 2007/08 แถมยังสุดยอดไปกว่านั้นด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 2 สำหรับตัวเขาเอง โดยนักเตะใหม่ทั้ง 3 คนดังกล่าวสามารถยิงเข้าประตูในช่วงดวลจุดโทษที่เอาชนะเชลซีไปได้ในนัดชิงชนะเลิศ